เผยแพร่: ปรับปรุง: โดย: ผู้จัดการออนไลน์
พระนครศรีอยุธยา – ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค1 แถลงผลงาน รวบแก็งค์ปล้นทอง และ ผู้กระทำผิดที่ก่อคดีอุกฉกรรจ์การสะเทือนขวัญ ในเขตพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ จังหวัดสระบุรี ทั้งสิ้น 4 คดี
เย็นวันนี้( 14 พ.ย.) ที่หน้าตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ร่วมกันแถลงข่าว จับกุมผู้กระทำผิดที่ก่อคดีอุกฉกรรจ์การสะเทือนขวัญ ในเขตพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ จังหวัดสระบุรี ทั้งสิ้น 4 คดี ปล้นร้านทองในห้างสรรพสินค้าโลตัสสาขาเสนา อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา คดีงัดตู้ ATM อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ คดีจับยาเสพติด 300,000 เม็ด ( จังหวัดสระบุรี ) 2 คดี โดยมีของกลางยาบ้าโทรศัพท์มือถือเงินสดและรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ มาแถลงข่าวต่อหน้าสื่อมวลชน
พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 กล่าวว่า ผบ.ตร.สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดบูรณาการร่วมกันสืบสวนจับกุมคดีอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญ เป็นที่น่าสนใจของประชาชน และ ระดมกวาดล้าง สืบสวนจับกุมบุคคลในเครือข่ายยาเสพติดโดยแบ่งเป็นคดี ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 2 คดี
คดีที่1 เมื่อวันที่ 7 ต.ค. เวลาประมาณ 10.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อุทัย ได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายไม่ทราบว่าเป็นผู้ใด งัดตู้เอทีเอ็มธนาคารไทยพาณิชย์ บริเวณร้านสะดวกซื้อซีเจ สาขาตลาด คดีที่ 2 เมื่อวันที่ 4 พ.ย.เวลาประมาณ 11.00 น. เกิดเหตุคนร้ายเป็นชาย 1 คน ใช้รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ฟีโน่ สีเข้ม -ขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เป็นยานพาหนะ จี้ชิงทอง ร้าน ทองเยาวราชเอ็มโกลด์ ได้เอาสร้อยคอทองคำจำนวน 68 เส้น น้ำหนักรวมประมาณ 86 บาท ราคาประมาณ 2,600,000 บาท
ส่วนคดีในพื้น จังหวัดสระบุรีมี 2 คดี เมื่อวันที่ 8 พ.ย.ชุดสืบสวน สภ.พระพุทธบาท ได้รับการประสานจาก สภ.สันกำแพง จับกุมตัว นายศักดิ์ชัย คงเจริญ และ นายชนะชน ทับแป้น พร้อมของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 303,000 เม็ด และจากการสืบสวนขยายผลทราบว่า เมื่อวันที่ 6 พ.ย. นายศักดิ์ชัยฯ กับพวก ยังได้ส่งกล่องพัสดุซึ่งมียาเสพติดซุกซ่อนไว้ ผ่าน บริษัทเจ แอนด์ ที เอ็กเพลส สาขาสันกำแพง มายังผู้รับในพื้นที่ อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี อีกจำนวน 2 กล่อง ระบุชื่อผู้รับคือ นายก้องภพ เจ้าหน้าที่ชุดตรวจยึดจึงได้จัดกำลังไปเฝ้าบริเวณดังกล่าว แต่ไม่มีผู้ใดมารับพัสดุทั้ง 2 กล่อง จึงได้ทำการตรวจยึดยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ลักษณะกลม ชนิดเม็ดสีแดงและสีเขียวปะปนกัน โดยตรวจพบซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องกระดาษพัสดุ จำนวน 2 กล่องๆ ละ 5 แพ็ค (รวมยาบ้าประมาณ 190,000 เม็ด) และจะได้ติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินการตามกฎหมาย
คดีที่ 4 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากสายลับว่า นายอรรถสิทธิ์ หรือเบียร์ มีพฤติการณ์เป็นผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ และพื้นที่ใกล้เคียง โดยจะเดินทางมารับยาเสพติดในพื้นที่ภาคกลางซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 1 เพื่อนำไปจำหน่ายให้กับลูกค้า เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสืบสวนติดตามมาโดยตลอด จนเมื่อวันที่ 12 พ.ย. สายลับแจ้งว่า นายอรรถสิทธิ์หรือเบียร์ จะเดินทางมารับยาเสพติดในพื้นที่ จ.สระบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวางแผนสะกดรอยติดตามจับกุม ผลการตรวจค้นพบยาบ้าประมาณ 200,000 เม็ด อยู่บริเวณที่วางเท้าผู้โดยสารเบาะหลังฝั่งซ้าย
ภายในรถยนต์อีซูซุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสี่คน ดำเนินคดีในความผิดฐาน “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาตและเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน” ส่งพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท เพื่อดำเนินคดี และได้ทำการตรวจยึดรถยนต์ จำนวน 2 คัน มูลค่า 1,400,000 บาท และเงินสด จำนวน 100,000 บาท ซึ่งจะได้สืบสวนขยายผลถึงบุคคลในเครือข่ายยาเสพติดที่เกี่ยวข้องต่อไป