วันที่ 24 สิงหาคม 2564ที่ ห้องประชุมอโยธยา ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ครั้งที่ 42/2564 โดยมี นายสมศักดิ์ เจริญไพฑูรย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พันเอก(พ) เพิ่มศักดิ์ ขุนโขลน รอง ผอ.รมน.จว. นายประทีป การมิตรี ปลัดจังหวัด นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายก อบจ. นพ.พีระ อารีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด คณะกรรมการฯ และเจ้าหน้าที่ เข้าร่วมประชุม โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล สาธารณสุขอำเภอ และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมผ่านระบบ Zoom ไปยังทุกอำเภอ เพื่อติดตามและกำหนดมาตรการบริหารสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ภายในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ภายใต้มาตรการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
โดยสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ข้อมูล ณ วันที่ 23 สิงหาคม 64 มียอดสะสมระลอกเมษายน 18,337 ราย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 308 ราย รักษาหายแล้ว 10,109 ราย และเสียชีวิตสะสม 173 ราย ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ติดตามความคืบหน้าการปฏิบัติตามคำสั่งและมาตรการเร่งด่วนในการป้องกันวิกฤตการณ์โรคโควิด-19 (ฉบับที่ 67) โดยมอบหมายให้ทุกหน่วยสื่อสารทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการและประชาชนอย่างต่อเนื่อง การให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 ในระบบ HI/CI และการจัดซื้อ ATK ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ความคืบหน้าการสนับสนุนเครื่องใช้สำหรับผู้ป่วยใน Hospitel ม.ราชภัฏพระนครศรีอยุธยา ความก้าวหน้าการดำเนินการปรับปรุงตลาดเจ้าพรหมของเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ผลการดำเนินงานตามมาตรการควบคุมโรคในการขอเปิดบริษัท แมกเนคอมพ์ พรีซิชั่น จำกัด(มหาชน) การติดตามสถานการณ์เฝ้าระวังการควบคุมโรคในเรือนจำและทัณฑสถาน สถานการณ์จำนวนเตียงในโรงพยาบาล โรงพยาบาลสนาม Hospitel และศูนย์พักคอยในชุม (HI/CI) ความคืบหน้ามาตรการและการจัดทำแผนเผชิญเหตุโรคติดเชื้อโควิดของสถานประกอบการตามประกาศจังหวัดฯ สถานการณ์โรคลัมปี สกิน และการได้จัดสรรวัคซีนจากกรมปศุสัตว์ ทั้งนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาการเสนอขอเปิดจำหน่ายสินค้าจำเป็นต่อการดำรงชีพของบริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์(มหาชน) และร้านไทวัสดุ และพิจารณาจัดสรรวัคซีนเพื่อป้องกันโรคโควิด-19 และมาตรการเร่งด่วนเพิ่มเติมตามนโยบายของ ศบค.
นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า จากสถานการณ์ผู้ติดเชื้อในปัจจุบันยังคงมีจำนวนมาก จึงให้ทุกอำเภอเน้นการดำเนินการเชิงรุกในการดูแลผู้ติดเชื้อควบคู่กับการช่วยเหลือประชาชน เพื่อเร่งควบคุมการแพร่ระบาดให้ลดลงโดยเร็ว ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ ได้พิจารณาการรับข้อเสนอการขอเปิดจำหน่ายสินค้าจำเป็นต่อการดำรงชีพของบริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์(มหาชน) และร้านไทวัสดุ จากคำสั่งปิดตามกรอบนโยบายที่ ศบค.กำหนด เนื่องจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นพื้นที่สีแดงเข้ม โดยจะนำเสนอให้ศปก.ศบค.พิจารณาเช่นเดียวกับร้านเสริมสวยต่อไป นอกจากนี้ ยังได้พิจารณาแผนการกระจายวัคซีน โดยมอบแนวทางให้ทุกอำเภอหารือวางแผนการฉีดร่วมกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และโรงพยาบาลอำเภอ แบ่งออกเป็น ช่วงเช้า เน้นฉีดให้กับกลุ่มผู้สูงอายุ โรคเรื้อรัง หญิงตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบางที่มีความเสี่ยงและอันตรายต่อการติดเชื้อแล้วเสียชีวิตได้ง่าย สำหรับช่วงบ่าย ให้เปิดประชาชนทั่วไปรับวัคซีนด้วยตนเอง (Walk-in) หรือจัดด้านในโรงพยาบาลเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ โรคเรื้อรัง หญิงตั้งครรภ์ และด้านนอกโรงพยาบาลเป็น Walk-in เพื่อเร่งกระจายฉีดวัคซีนให้เข้าถึงประชาชนทุกกลุ่มให้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 70% ของประชากรทั้งจังหวัด อย่างไรก็ตาม ต้องขอความร่วมมือพี่น้องชาวพระนครศรีอยุธยาเข้มงวดการปฏิบัติตาม D-M-H-T-T-A เพื่อเป็นวัคซีนให้ตนเองและสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้กับสังคมต่อไป