เพราะนโยบายและมาตรการกระจัดกระจาย แต่ไม่มีข้อห้ามจริงแท้และชัดเจน โดยทางปฏิบัติแล้ว ประชาชนสามารถเดินทางเข้าออกข้ามจังหวัดได้ ด้าน นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ก็ยืนยันว่า ยังไม่มีการห้ามเดินทางเข้าออก แต่ให้อำนาจแต่ละจังหวัดกำหนดมาตรการเพื่อความปลอดภัยของคนในพื้นที่ได้เอง
และเนื่องจากมีทั้งนโยบายจาก ศบค. รัฐบาล ส่วนกลาง และมาตรการรายจังหวัด ทำให้เราๆ ท่านๆ ผู้ประสงค์เดินทางเกิดคำถามชวนสับสนว่า กับสถานการณ์รับมือโรคระบาดแบบแยกย้ายกันคิดชนิดตัวใครตัวมัน สรุปแล้วอะไรคือข้อมูลที่ถูกต้อง จึงเป็นความจำเป็นที่ต้องลองสำรวจตัวอย่างมาตรการบางจังหวัด ว่าสิ่งที่ควรปฏิบัติคืออะไรกันแน่
(หมายเหตุ: ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงรายวัน)
เชียงใหม่
แนวปฏิบัติ: มาจาก 5 จังหวัดเสี่ยง ต้องกักตัว 14 วัน
ศูนย์ข้อมูลข่าวสารเฉพาะกิจจังหวัดเชียงใหม่ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ โดย นายวีระพันธ์ ดีอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ แถลงเมื่อวันที่ 8 เมษายนว่า สำหรับผู้ที่เดินทางมาจาก 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี นนทบุรี นครปฐม และสมุทรปราการ ต้องลงทะเบียนในแอปพลิเคชัน CM Chana และต้องกักตัว (Home Quarantine) เป็นเวลา 14 วัน ทั้งนี้ จังหวัดเชียงใหม่ขอความร่วมมืองดการเดินทางโดยไม่จำเป็น
อ้างอิง: https://www.facebook.com/Chiangmaidatacenter/posts/323649639280132
บุรีรัมย์
แนวปฏิบัติ: แบ่งสีพื้นที่เพื่อกักตัวและเฝ้าระวัง
จังหวัดบุรีรัมย์ ออกประกาศเมื่อวันที่ 6 เมษายนถึงส่วนราชการต่างๆ เพื่อเฝ้าระวังผู้เดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ โดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ มีมติเห็นชอบการประกาศกำหนดเขตพื้นที่จังหวัดของผู้เดินทางเข้ามาแยกเป็นสี ดังนี้
- สีแดง 5 จังหวัด: กรุงเทพฯ ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และนครปฐม
- สีส้ม 9 จังหวัด: สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ชุมพร ตาก ราชบุรี ชลบุรี สุพรรณบุรี นราธิวาส และกาญจนบุรี
- สีเหลือง 10 จังหวัด: อยุธยา สระบุรี นครนายก ฉะเชิงเทรา เพชรบุรี ระนอง ระยอง สงขลา ยะลา และขอนแก่น
- สีเขียว อีก 53 จังหวัด นอกเหนือจากรายชื่อข้างต้น
สำหรับผู้เดินทางมาจากพื้นที่สีแดง (ตามเกณฑ์บุรีรัมย์) กรุงเทพฯ ปทุมธานี สมุทรปราการ นครปฐม และนนทบุรี ต้องกักตัว 14 วัน หรือขอตรวจ rapid test ที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ หากผลการทดสอบเป็นลบ ไม่ต้องกักตัว
อ้างอิง: https://web.facebook.com/photo?fbid=4450655278284275&set=pcb.4450655531617583
เพชรบูรณ์
แนวปฏิบัติ: มาจากพื้นที่ 5 จังหวัด กักตัว 14 วัน และห้ามเดินทางเข้าออกจังหวัด
จังหวัดเพชรบูรณ์ ออกคำสั่งเมื่อวันที่ 7 เมษายนว่า ผู้เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุด 5 จังหวัด กรุงเทพฯ ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และนครปฐม ให้ไปรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ทันทีที่เดินทางมาถึง และกักตัว 14 วัน
ส่วนผู้ที่เดินทางมาจากจังหวัดพื้นที่สีส้ม ให้สังเกตอาการ หากผิดปกติให้รีบพบแพทย์ทันที
นอกจากนี้ ยังขอความร่วมมือประชาชน งดเดินทางเข้าออกจังหวัดเพชรบูรณ์ ระหว่างวันที่ 9-18 เมษายน 2564
อ้างอิง: http://phetchabun.go.th/pbn_covid/download/notice/23_07042564.pdf
สงขลา
แนวปฏิบัติ: มาจากพื้นที่ 5 จังหวัด กักตัว 14 วัน
คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสงขลา ออกคำสั่งเมื่อวันที่ 7 เมษายน ระบุว่า ผู้ที่เดินทางมาจาก 5 จังหวัด นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สมุทรปราการ กรุงเทพฯ (เฉพาะเขตวัฒนา เขตคลองเตย และเขตบางแค) ต้องกักตัว 14 วัน ภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่
ส่วนพื้นที่เขตอื่นของกรุงเทพฯ นับรวมกับสมุทรสาคร สมุทรสงคราม กาญจนบุรี ชุมพร ตาก ราชบุรี ชลบุรี สุพรรณบุรี นราธิวาส ให้อยู่ในมาตรการดูแลตนเอง 14 วัน และให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ หากผู้เดินทางมาจากพื้นที่ข้างต้นมีเหตุจำเป็นต้องเดินทางก่อนระยะเวลา 14 วัน ให้มีหนังสือรับรองการตรวจโควิด-19 ซึ่งมีอายุไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง และให้เดินทางกลับโดยเร็ว
อ้างอิง: https://web.facebook.com/radiosongkhla1/
ชุมพร
แนวปฏิบัติ: สแกน QR Code พิจารณาการกักตัว
วันที่ 7 เมษายน จังหวัดชุมพรออกมาตรการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยกำหนดให้ชุมพรเป็นเขตพื้นที่เฝ้าระวังสูง ประชาชนที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดชุมพร ต้องกรอกข้อมูลประเมินความเสี่ยงแก่หน่วยรับบริการสาธารณสุข โดยการสแกน QR Code ‘Save Chumphon’ จากนั้นเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อจะดำเนินการสอบสวนโรคเพื่อพิจารณาความเสี่ยง หากเจ้าพนักงานวินิจฉัยแล้วเห็นว่าเข้าเกณฑ์มีความเสี่ยง จะออกคำสั่งให้บุคคลดังกล่าวกักตัว 14 วัน หากวินิจฉัยแล้วไม่เข้าเกณฑ์เป็นผู้ที่มีความเสี่ยง ต้องสังเกตอาการตนเองเป็นเวลา 14 วัน
อ้างอิง: https://web.facebook.com/PRDchumphon/
บึงกาฬ
แนวปฏิบัติ: มาจากพื้นที่ 5 จังหวัด กักตัว 10 วัน
จังหวัดบึงกาฬ ออกประกาศให้ประชาชนที่เดินทางมาจาก 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ นครปฐม กักตัวในบ้านพักไม่น้อยกว่า 10 วัน สำหรับประชาชนที่เดินทางโดยรถขนส่งสาธารณะประจำทาง ต้องเข้ารับการตรวจคัดกรอง ณ สถานีขนส่งในพื้นที่ปลายทางเพื่อให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขประเมินอาการและความเสี่ยงในการติดเชื้อ และสำหรับผู้ที่เดินทางจากพื้นที่ควบคุมสูงสุด 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ นครปฐม กักตัวในบ้านพักไม่น้อยกว่า 10 วัน
อ้างอิง: https://www.facebook.com/RADIOBUENGKAN104.25MHZ/posts/759894748049317
นครราชสีมา
แนวปฏิบัติ: มาจาก 5 จังหวัด ให้รายงานตัว ไม่ต้องกักตัว
คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา ประกาศเมื่อวันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมาว่า ผู้ที่เดินทางมาจาก 5 จังหวัด กรุงเทพฯ ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และนครปฐม ต้องรายงานตัวกับผู้นำชุมชน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ภายใน 12 ชั่วโมง นับตั้งแต่เดินทางมาถึงจังหวัดนครราชสีมา จากนั้นผู้นำชุมชน หรือ อสม.ต้องรายงานข้อมูลต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ในวันเดียวกันหรือวันรุ่งขึ้น หากได้รับแจ้งในช่วงกลางคืน
หากคัดกรองแล้ว พบว่าบุคคลนั้นเกี่ยวข้องกับพื้นที่เสี่ยงในไทม์ไลน์ ให้กักตัว 14 วัน
อ้างอิง: https://covid-19.nakhonratchasima.go.th/files/com_announce/2021-04_2568a7c4841e907.pdf
ขอนแก่น
แนวปฏิบัติ: มาจาก 5 จังหวัด ให้รายงานตัว ไม่ต้องกักตัว
ข้อแนะนำการปฏิบัติตามมาตรการของจังหวัดขอนแก่น สำหรับผู้ที่เดินทางมาจากจังหวัดในพื้นที่ 5 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และ นครปฐม รายงานตัวกับผู้นำชุมชน หรืออาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ปฏิบัติตามาตรการป้องกัน เว้นระยะห่าง ล้างมือ สวมหน้ากาก หลีกเลี่ยงการไปสถานที่ชุมชน
ส่วนการกักตัว เฟซบุ๊กสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น แจ้งไว้เมื่อวันที่ 8 เมษายนว่า “ให้กักตัวที่บ้านในช่วงเวลาที่อยู่ในจังหวัดขอนแก่น (ไม่ใช่กักตัว 14 วัน)” และ “ท่านสามารถเดินทางออกจากขอนแก่นได้ โดยไม่จำเป็นต้องอยู่ครบ 14 วัน”
อ้างอิง: https://web.facebook.com/kkpho.go.th
ประจวบคีรีขันธ์
แนวปฏิบัติ: ไม่ได้มาจากคลัสเตอร์เสี่ยง ไม่ต้องกักตัว
เฟซบุ๊กสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ให้คำแนะนำเรื่องการเดินทางว่า หากไม่ได้อยู่ในพื้นที่การระบาดสูงสุดที่กำหนดโดยจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (ระบุเป็นรายชื่อคลัสเตอร์ต่างๆ หลายสิบแห่ง เช่น สถานบันเทิง ร้านอาหาร ตลาด ศูนย์การค้า ฯลฯ) ไม่ต้องกักตัว แต่ให้รักษามาตรการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการใส่หน้ากาก และรักษาระยะห่าง
อ้างอิง: https://web.facebook.com/ssjpcko/
สุรินทร์
แนวปฏิบัติ: มาจาก 5 จังหวัด ให้รายงานตัว ไม่ต้องกักตัว
ก่อนหน้านี้ จังหวัดสุรินทร์ เคยมีมาตรการกักตัว 14 วันสำหรับผู้เดินทางมาจาก 5 จังหวัด กรุงเทพฯ ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ นครปฐม รายงานตัวกับเจ้าพนักงานปกครองหรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันทีเมื่อเดินทางมาถึง และทำการกักตัว ณ ที่พักอาศัย 14 วัน
แต่ช่วงบ่ายของวันที่ 8 เมษายน เพจสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ ได้ออกมาแก้ไขมาตรการใหม่ว่า “วันนี้ (8 เม.ย 64) ศบค. แถลงยังคงสถานการณ์ตามเดิม (ไม่มีพื้นที่สีแดง) โดยให้ปฏิบัติตามมาตรการที่จังหวัดกำหนดอย่างเคร่งครัด จังหวัดสุรินทร์ จึงยังไม่มีคำสั่งมาตรการกักตัว 14 วัน สำหรับผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ระบาดของโควิด-19”
ส่วนผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุม (พื้นที่สีส้ม) 9 จังหวัด ให้ไปรายงานตัวกับเจ้าพนักงานปกครอง หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันทีที่เดินทางมาถึง
อ้างอิง: https://web.facebook.com/prsurin2
ร้อยเอ็ด
แนวปฏิบัติ: สังเกตตัวเอง ไม่ต้องกักตัว
จากประกาศของจังหวัดร้อยเอ็ด เรื่องมาตรการป้องกันควบคุมโรคฯ ลงวันที่ 31 มีนาคม 2564 ระบุ การเดินทางข้ามจังหวัดยังทำได้ สำหรับผู้ที่เดินทางพื้นที่ควบคุม 9 จังหวัด (พื้นที่สีส้ม) ให้สังเกตตัวเอง 14 วัน นอกเหนือจากนี้ หากสอบสวนโรคพบมีประวัติปัจจัยเสี่ยงสูง ให้กักตัว 14 วัน
อ้างอิง: https://www.roiet.go.th/upload/file/20210404131210File.pdf
ภูเก็ต
แนวปฏิบัติ: มาจาก 5 จังหวัด ให้รายงานตัว ไม่ต้องกักตัว
ข้อมูลจากที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 8 เมษายน ระบุว่า สำหรับผู้ที่เดินทางมาจาก 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ นครปฐม ไม่ต้องกักตัว แต่ให้ระมัดระวังตัว (Salf monitoring) และให้รายงานตัวที่ ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้สถานการณ์ระดับตำบล (EOC ตำบล)
อ้างอิง: https://www.facebook.com/patomphong.khamvisat/posts/188104229788140
เพิ่มเติมข้อมูลเมื่อ 21.00 น. วันที่ 8 เมษายน 2564