ตำรวจรถไฟรวบเพื่อนสนิทแอบฉกกำไลทองเพื่อนไปส่งค่าแชร์

เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้กองบังคับการตำรวจรถไฟ(บก.รฟ.)เร่งรัดสืบสวนป้องกันปราบปรามและติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับต่อมา พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ ผบก.รฟ. พ.ต.อ.ปัญญา กล้าประเสริฐ รอง ผบก.รฟ. พ.ต.อ.ขวัญชัย พัฒรักษ์ ผกก.2 บก.รฟ. พ.ต.ท.จักรพันธ์ จันวนา รอง ผกก.2 บก.รฟ. พ.ต.ท.เอนก ยอดหมวก รอง ผกก.2 บก.รฟ. และ พ.ต.ต.เลอศักดิ์ พิเชษฐไพบูลย์ สว.ฝอ.5 บก.อก.บช.ก. รรท.สว.ส.รฟ.อยุธยา กก.2 บก.รฟ. นำกำลังจับกุมนางสาวปวีณา แปลงลำดวน อายุ 40 ปีบ้านเลขที่ 17 หมู่ 11 ต.เหนือเมือง อ.เมืองร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 868/2564 ลง 7 มิถุนายน 2564 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ลักทรัพย์ในเคหะสถานหรือรับของโจร” ในคดีของ สน.บางซื่อ

พล.ต.ต.อำนาจ กล่าวว่าก่อนจับกุมผู้ต้องหาเป็นเพื่อนกับผู้เสียหายมาก่อนเมื่อประมาณต้นปี 2564 ผู้ต้องหามีปัญหาติดหนี้แชร์และไม่สามารถหาเงินมาใช้หนี้ ด้วยความที่ผู้เสียหายไว้ใจในความเป็นเพื่อนและไม่ระมัดระวัง ผู้ต้องหาจึงอาศัยจังหวะเข้าไปขโมยกำไลข้อมือทองคำ หนัก 2 บาท ของผู้เสียหายซึ่งวางอยู่ในห้องนำไปจ่ายแก่ท้าวแชร์แทนเงินสดเพื่อชำระหนี้ที่ค้างอยู่ ผู้เสียหายจึงแจ้งความกับพนักงานสอบสวน ต่อมาตำรวจสืบสวนจนทราบว่าผู้ต้องหาคือเพื่อนของผู้เสียหายกระทั่งศาลออกหมายจับดังกล่าว

ผบก.รฟ. กล่าวอีกว่าจากการสืบสวนของ ส.รฟ.อยุธยา ทราบอีกว่าผู้ต้องหามีพฤติการณ์ลักขโมยเสื้อผ้าเพื่อนำไปขายผู้เสียหายรายอื่นเข้าแจ้งความและมีหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิดในท้องที่อื่นอีกด้วย ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมายต่อมา ชุดสืบสวน ส.รฟ.อยุธยาฯ ทราบว่าผู้ต้องหาเดินทางมากับขบวนรถไฟ จึงวางกำลังเข้าจับกุมได้บนขบวนรถด่วนพิเศษ 7 (กรุงเทพ-เชียงใหม่) ขณะหยุดรับส่งผู้โดยสารที่ชานชาลาสถานีรถไฟอยุธยา ต.กะมัง อ.พระนครศรีอยุธยา จว.พระนครศรีอยุธยา จากนั้นได้นำตัวทำบันทึกจับกุมที่ ส.รฟ.อยุธยาฯ แล้วนำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป