ดาราสาว นุก สุทธิดา งงในงง คดีเก่ายังไม่ทันจบ เจอโจรงัดบ้านซ้ำ แถมคู่กรณีจ่อแจ้งความกลับฐานบุกรุก ลั่นเหมือนโดนแกล้ง
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
ไม่รู้ว่าต้องไปทำบุญวัดไหน สำหรับนักแสดงและพิธีกร นุก สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา ที่เรียกว่าซวยซ้ำซวยซ้อน ซวยแล้วซวยอีกกับกรณีบ้านหรูที่ปล่อยให้เช่า โดยก่อนหน้านี้บ้านดังกล่าวได้ถูกผู้เช่าคือ นายอธิป ชุมพล อายุ 25 ปี แปรสภาพไปเป็นโรงงานทำถุงมือเถื่อน จนบ้านพังพินาศ
เรียกว่าเป็นคดีความกันไปยังไม่ทันจบ ดาราสาวยังโดนโจรขึ้นบ้านซ้ำอีก สร้างความเครียดให้กับตัวเองอย่างมาก เพราะจากเดิมก็มีเรื่องของผลมะเร็งที่ทำให้เป็นกังวลใจอยู่แล้ว โดยล่าสุดวันที่ 7 มี.ค.64 นุก ได้เปิดใจถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น พร้อมกับอัพเดตผลมะเร็งที่เพิ่งไปตรวจมา
เหตุการณ์โจรขึ้นบ้านเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา? “อีกแล้ว งงมาก คือต้องบอกว่าใบแจ้งความนี่สะสมครบ 10 ใบแล้วได้ชิงโชคเลยนะคะ เพราะตอนเช้าวันนั้นจำได้ว่าเป็นวันที่ 5 มีนาคม คุณหมอนัดให้ไปตรวจร่างกาย รอบนี้คือไปตรวจผลเลือดว่าค่ามะเร็งยังสูงอยู่หรือเปล่า เราก็มีความกังวลแหละ ก่อนนอนก็ยังคิดอยู่ ขนาดว่าใจสู้แต่ก็ยังนอนไม่หลับ กังวลว่าจะไปทันคุณหมอมั้ย แล้วผลจะเป็นยังไง จะต้องกลืนแร่อีกมั้ย คือก็มีความเครียด นอนไม่ค่อยหลับ”
“จนพอตอนเช้าตื่นมา ประมาณ 7-8 โมงเช้า คุณแม่ก็โทร.มาบอกว่ามีคนแถวนั้นโทร.มาแจ้งให้เราทราบว่า เราได้เข้าไปเอาของหรือเปล่า ณ ตอนนี้ เราก็ถามว่าเข้าไปตั้งแต่กี่โมง เขาก็บอกว่าตั้งแต่ 6 โมงเช้าแล้ว ที่มีคนเห็น พอเขามองๆ มาแล้วมันดูไม่ใช่เรา เขาเลยโทร.แจ้งเรา ซึ่งตอนนั้นเนี่ย เราจะต้องไปโรงพยาบาล เลยโทร.บอกกับผู้จัดการ”
“ซึ่งตำรวจปคบ.ก็นัดเราวันนั้นเหมือนกันตอน 11.00 น. เพื่อที่จะเข้าไปเอาของกลางที่ยึดไว้ แต่ว่า 06.00 น. มีคนมาเอาของไปก่อน ผู้จัดการก็เลยเข้าไปที่บ้านแต่ไม่เจอใครแล้ว กว่าจะถึงเขาก็เก็บของออกไปหมดแล้ว”
ถุงมือยางที่เขาเอาไปด้วย ถือเป็นของกลางด้วยไหม? “นุกก็ไม่ทราบว่าจริงๆ แล้วตำรวจว่ายังไงนะคะ แต่สิ่งที่เขาฝากไว้ก็มีเครื่องซักผ้า ถุงมือยางเราก็ไม่แน่ใจว่าตำรวจเขายึดไว้ขนาดไหน แล้วยึดไปแล้วหรือยัง”
มีอะไรที่หายไปบ้าง? “สิ่งที่สูญหายไป ตรงนี้ก็อย่างที่บอกไปว่าเราไม่ได้ว่าใคร ของที่หายไปก็จะเป็นเศษซากถุงมือยาง ซึ่งเราต้องบอกก่อนว่า ถ้าโจรทั่วไปไม่ได้ทำธุรกิจตรงนี้ ไม่รู้จะเอาไปทำอะไร เพราะมันเป็นซากถุงมืออย่างที่เห็นกัน”
“อย่างที่สองก็คือเอกสารทั้งหมดในบ้าน หายหมดเลย ซึ่งถ้าให้เราประเมินได้ เราก็คิดว่าน่าจะมีอาชีพพับถุงกระดาษขายนะคะโจรคนนี้(หัวเราะ) เพราะว่าเอาเอกสารไปหมดเลย แล้วก็ของใช้ส่วนตัวของผู้เช่ารายเก่า พวกเสื้อผ้า หมอน ผ้าห่มก็หายไป ของที่เป็นของเราก็หายไปด้วย รูปปั้นสมเด็จรัชกาลที่ 5 ที่อยู่มากับบ้านเลยก็หายไปด้วย”
เอกสารที่หายไป เป็นเอกสารสำคัญกับรูปคดีไหม? “เป็นเอกสารของผู้เช่าเดิม ซึ่งเราก็ไม่ทราบว่ามีความสำคัญอะไรมากน้อยแค่ไหน แต่เราก็รู้สึกแค่ว่าข้อหนึ่งใครนะมันช่างกล้า แบบไม่เกรงกลัวกฎหมายเลยเหรอ ซึ่งบ้านหลังนี้ ถ้าเอาเป็นว่าโจรกะโหลกกะลาม้าหมุน สมมติถ้าเป็นพวกนั้นนะคะ กล้ามากนะ เพราะว่าบ้านมีคดีมาก่อนอยู่แล้วก็ไม่น่าจะขึ้นซ้ำขึ้นซ้อน”
“แต่อีกส่วนหนึ่งก็คิดว่า แล้วถ้าเราเป็นคนที่กลับไปอยู่บ้านหลังนั้นล่ะ คือนึกจะมาเมื่อไหร่ก็มา ตัดสายยูซึ่งเราล็อกไว้ 3 ชั้นออกหมดเลย อันนี้มันคือลักขโมย มันคือบุกรุกด้วย ที่สำคัญที่สุดคือคัตเอาต์ที่บ้านมีทั้งหมด 4 จุด แต่ละชั้นมีคัตเอาต์ของมันเป็นคัตเอาต์น้อย ส่วนคัตเอาต์ใหญ่อยู่อีกตึกหนึ่ง ซึ่งถ้าไม่ใช่คนที่เคยอยู่บ้านนี้จะไม่รู้ว่าคัตเอาต์ใหญ่ทั้งหมดในบ้านอยู่ตรงไหน”
“แล้วแอร์ก็ถูกเปิดขึ้นมา เพราะทุกครั้งของการไปบ้าน เราจะสับคัตเอาต์ใหญ่หมดเลย เพราะเรากลัวไฟไหม้บ้าน ทีนี้พอเราไปถึงคัตเอาต์ใหญ่ถูกเปิด แอร์ถูกเปิด และเอารีโมตแอร์ทั้งหมดถอดถ่านแล้วปาทิ้ง ซึ่งโจรมีเวลาว่างมากที่จะทำสิ่งนั้น แล้วประตูก็เปิดทิ้งไว้ เหมือนแกล้งทำให้เสียทรัพย์ด้วย”
เรามองว่าเป็นคู่กรณีเราไหม? “เขาก็ให้คนอื่นโทร.มา เป็นคนที่เขาพูดว่าเป็นตัวกลาง โทร.มาหลังจากที่เราไลฟ์ ว่าเขาไม่ได้ทำนะ ถึงบอกไปในไลฟ์ว่าตัวกลางเนี่ย หมายถึงว่าเราสองคนรู้จักกันเนอะ แต่ในเมื่อฉันไม่รู้จักเธอก็ไม่เรียกเธอว่าเป็นตัวกลางนะคะ เรียกว่าเป็นตัว…มากกว่า ก็ไม่รู้ว่าโทร.มามีจุดประสงค์อะไร เพราะว่าถามเขาว่าขอทีละข้อเลย”
“ข้อหนึ่งคุณบอกว่าคุณไม่ได้ทำ แล้วคุณร้อนตัวโทร.มาทำไม เพราะฉันก็ไม่ได้พูดถึงคุณ เขาก็บอกว่าลักษณะการพูดเนี่ย ทุกคนคิดว่าเป็นเขา เราก็บอกเลยว่า หนึ่งเราไม่ได้เอ่ยชื่อเลยว่าใคร สองนี่เป็นบ้านของฉัน ฉันมีสิทธิ์ที่จะไลฟ์ ในขณะที่โจรขึ้นบ้าน หรือมีคนมาขโมยของในบ้าน ฉันมีสิทธิ์ที่จะทำในบ้านของฉัน”
“เขาก็บอกว่า อีกข้อหนึ่งที่เขาโทร.มาคือ ไม่ใช่ไม่พยายามจะใช้หนี้ในส่วนของค่าเสียหายทั้งหมด กำลังหาเงินอยู่ เราก็เลยบอกว่าโอเค ถ้าเป็นบ้านน้องล่ะ พูดกับทุกคนว่ากำลังหาเงินอยู่ ตั้งแต่แม่เขามาขึ้นโรงพักกับเราก็บอกว่ายินดีจะชดใช้ เราก็ไม่อยากจะพูดอะไร เพราะเราอยากให้คนที่ยืนข้างๆ เรา มีที่ยืนในสังคม”
“แต่ถ้าทำตัวเลวๆ แล้วคิดว่าไม่อยากจะมีที่ยืนในสังคม แล้วก็ไม่แคร์ด้วย เราก็รู้อยู่นะคะว่าเขาทำตัวยังไง เพราะที่ผ่านมาเขาพูดกับทุกคนอย่างนี้ ว่าเขาจะคืนเงินเรา แต่ไม่มีการติดต่อใดๆ ที่มาจากเขาก่อน ตั้งแต่ขึ้นโรงพักจนถึงวันนี้ มีแต่เราติดต่อไป”
“แม้แต่เรามีทีมทนายมาแล้ว ทีมทนายเราก็ติดต่อไป ไม่ใช่ว่าเขาติดต่อมาหา รวมถึงน้องคนนี้ที่พูดว่าจะชดใช้ อะไรคือการชดใช้ พูดได้ทุกอย่าง แต่การกระทำหรือความเป็นจริง เคยเข้ามาคุยมั้ย อย่าว่าแตาเอาเงินมาให้เลย ค่าน้ำค่าไฟที่ใช้ไปแล้วในเดือนที่โดนจับก็ยังไม่จ่ายเลย อย่ามาพูดเรื่องชดใช้ค่าเสียหาย”
ที่ไปแจ้งความเบื้องต้นว่าอย่างไรบ้าง? “ได้แจ้งความ ซึ่งกว่าเราจะไปถึง กว่าเราจะได้ใบแจ้งความ วันนั้นก็คือเหนื่อยหนักมาก สาหัสมาก เพราะเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานลงมาเก็บลายนิ้วมือนาน ด้วยความที่บ้านมันหลังใหญ่ ต้องบอกว่าขอบคุณนะคะ เพราะว่าเจ้าหน้าที่ทำงานละเอียดมาก แล้วก็ใช้เวลานานมากๆ ตั้งแต่เวลาประมาณเที่ยงเสร็จอีกทีก็ประมาณบ่ายสามบ่ายสี่เลยค่ะ”
“เจ้าหน้าที่ของวังทองหลางก็มาเฝ้าที่บ้านเหมือนกัน เพื่อที่จะรอไปกับเรา ร้อยเวรที่วังทองหลางคือไปรับแจ้งความไปพร้อมกับเราเลยที่สน.ประมาณ5- 6 โมงเย็น ข้าวเช้าของเราและเจ้าหน้าที่ไม่ได้กินเลย เช้าเที่ยงคือมากินอีกทีก็คือตอน 6 โมงเย็นทั้งคู่เลย ต้องขอขอบคุณร้อยเวรสน.วังทองหลางด้วย”
“แต่พอเราไปถึงที่สน.ปุ๊บ เราก็ได้ทราบว่าน้องคนนี้เข้ามาพยายามจะแจ้งความเราเหมือนกันตอนบ่าย 4 โมง โดยอ้างว่าเราบุกรุกสถานที่ เพราะที่นั่นยังเช่าอยู่ ที่นั่นยังมีสัญญาเช่าอยู่ เพราะฉะนั้นเราบุกรุก ข้อ2 เรายึดเหนี่ยวของเขาแต่เราไม่ได้ยึดเหนี่ยว คือพยายามจะแจ้งความเรา”
“เจ้าหน้าที่ก็เลยบอกว่าอันนี้ให้ไปสืบกับทางศาล ตอนนี้ก็เลยลงบันทึกประจำวันไว้ อยากจะให้แจ้งความจริงๆ เหมือนกันนะคะ จะได้จัดการเรื่องแจ้งความเท็จไปเลย เพราะตัวเขาเองก็รู้ดีอยู่แล้วว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันคืออะไร เหมือนกับเขาแกล้งหรือเปล่า คือบอกแล้วว่ามันไม่ธรรมดา”
สามารถจะเข้าไปติดกล้องวงจรปิดในสถานที่ของเราเองได้ไหม? “คือตอนนี้ก็ต้องรอคุยกับฝั่งทนายอัจฉริยะนะคะว่ายังไง ว่าเขามีความเห็นยังไง”
สามารถทำสัญญากับคู่กรณีได้ไหมว่าจะผ่อนจ่ายเป็นงวด งวดละเท่าไหร่? “คือเขาไม่คุยค่ะ ติดต่อไปทางน้องก็บอกว่าอยากจะเข้ามา กำลังเก็บเงินอยู่ แต่ก็ไม่เคยติดต่อ ส่วนทางคุณแม่ติดต่อไปก็บอกว่าเดี๋ยวขอดูก่อนเดี๋ยวขอกลับไปคิดก่อน ทุกครั้งที่ติดต่อไปก็พูดแบบนี้นะคะแต่เวลาอยู่ต่อหน้าสื่อก็บอกว่ายินดีจะชดใช้ให้”
แสดงว่าคดีเก่ายังไม่มีอะไรคืบหน้าไปกว่านี้? “ใช่ค่ะก็มีแต่เรื่องใหม่ๆ ซึ่งมันจะทำให้คนที่ทำอะไรแบบนี้ได้ใจ นี่ขนาดเราเป็นคนที่มีคนที่รู้จักอยู่บ้างอ่ะนะคะ เวลาทำอะไรน่าจะเป็นข่าวก็ยังมีคนที่กล้าทำอย่างนี้เลย นึกถึงคนทั่วไปจะเป็นยังไง”
คู่กรณีที่จะยื่นฟ้องเขา ได้มีการดำเนินไปถึงไหนแล้ว? “นุกเพิ่งคุยกับทางผู้รับเหมา คือการที่จะยื่นฟ้องเอกสารจะต้องแน่นมากๆ ต้องไปทำงานแต่ละจุดชัดเจน แล้วก็เพิ่งรวบรวมเอกสารส่งให้ทนายไปอีกรอบหนึ่ง ทางทนายก็เลยกำลังเตรียมการว่าจะทำยังไงต่อไป เพราะคดีนี้เวลาฟ้องไปแล้วก็ต้องมาสืบอีกทีว่าอะไรที่ทำให้เสียหายบ้าง”
แต่ก็ยังตั้งใจว่าจะฟ้องแน่นอน? “ต้องคุยกับทีมทนายว่ายังไง ถ้าถามนุก นุกไม่ใช่คนที่อยากจะมีปัญหากับใคร เราอยากจบแต่รู้สึกว่าเขาไม่อยากจบ สิ่งที่เขาทำเหมือนเขาไม่ผิด แล้วเขาไม่พร้อมที่จะชดเชยหรือช่วยชดใช้ใดๆ เลย อยู่ที่ทนายแล้วว่าจะต้องทำยังไง แต่เราไม่ใช่คนที่อยากจะมีเรื่องแน่นอน เพราะเราก็รู้ เขาก็รู้ เขาถึงทำอย่างนี้ เขาก็รู้ว่าถ้าเราฟ้องไปมันไม่ใช่ง่ายๆ ที่คดีจะจบ เลยเป็นเหตุผลที่เขาไม่แคร์ไงคะ”
ถามถึงผลเลือดบ้างเป็นยังไง? “ดีค่ะผลเลือดดีขึ้นก็คือน่าพอใจขึ้น หมอเสียงดังเลยค่ะ ร่าเริงเลย บอกว่าผลเลือดเป็นที่น่าพอใจมาก ส่วนผลอัลตร้าซาวด์ก็ยังมีเซลล์มะเร็งตุ่มก้อนๆ อยู่ในต่อมน้ำเหลืองประมาณ 3 จุด ที่เราเคยบอกว่าคุณหมอเก่งมากสามารถที่จะเห็นเซลล์มะเร็งได้ตั้งแต่ครั้งแรก ต้องบอกว่าครั้งนี้คุณหมอพูดอย่างชัดๆ อันนี้ใช่หรืออันนี่ไม่ใช่ เราก็เลยรู้สึกสบายใจ”
ขนาดมันใหญ่เล็กยังไงบ้าง? “ยังไม่ถึง 1 เซนฯ ค่ะ 3 จุดก็ยังไม่ถึง สบายใจได้ มีอยู่ 2 อย่างก็คือรอดูว่ามันจะยุบลงบ้างมั้ย หรือมันจะโตบ้างก็กินยาให้มันฝ่อไป แล้วก็ยังต้องเช็กอัพตลอด หรือถ้าไม่สบายใจอยากจะผ่าก็ผ่า หรือพูดสวยๆ ก็คือเก็บตังค์ได้เมื่อไหร่ก็มาผ่า”
ค่าใช้จ่ายมันค่อนข้างสูง? “โห คราวที่แล้วก็เกือบล้านเหมือนกันค่ะ โดนไปก็ง่อยเหมือนกัน อุตส่าห์เก็บเงิน คิดว่าจะซื้ออะไรให้ลูกซะหน่อย”
แล้วครั้งนี้คิดว่าจะผ่าไหม? “จากที่คุยกับคุณหมอทั้งสองท่านและประเมิน คุณหมอท่านที่สองบอกว่าอยากจะลุ้นให้ดูไปก่อนเรื่อยๆ แล้วมันอาจจะมีเคสที่ฝ่อลงไปก็ได้ นุกก็คิดในแง่ดีเหมือนกันว่า น่ามีผลดี ช่วงนี้ก็อาจจะต้องดูแลเรื่องอาหารเรื่องการกินเป็นพิเศษ”
“ต้องขอฝากขอบคุณด้วยค่ะ มีแฟนคลับหลายคนต้มน้ำมะตูม ต้มน้ำอะไรมาให้มากมาย หรืออาหารเสริมบ้าง คือนุกกินหมดเลยที่ทุกคนให้มา คือถ้าใครใส่ของอะไรมาก็คือนุกตายเลย ขอบคุณไว้ตรงนี้ด้วย คือตอนนี้กำลังดูแลตัวเองเป็นอย่างดี เพราะต้องบอกว่าไม่อยากผ่าตัดเพราะไม่อยากเสียตังค์ อยากจะเก็บตังค์ไว้ให้ลูก เลยรู้สึกว่าต้องดูแลตัวเองอย่างดี”
“แล้วก็ไม่ต้องกลืนแร่ด้วย คุณหมอบอกว่าคนไข้คนอื่นจะกลัวการผ่าตัดมากกว่ากลืนแร่ แต่ทำไมคุณสุทธิดากลัวการกลืนแร่มากกว่าการผ่าตัด เลยบอกคุณหมอว่าการผ่าตัดมันเป็นงานของหมอ คนไข้แค่หลับเฉยๆ ทั้งหมดหมอเหนื่อย เราไม่เหนื่อย แต่การกลืนแร่มันเหมือนเป็นงานของเรา เราเหนื่อย”