“หลวงปู่ลอง สิริธโร” วัดวิเวกวายุพัด ต.หนองจิก อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา พระเกจิอาจารย์ชื่อดังกรุงเก่าอีกรูป ที่ศิษยานุศิษย์ให้ความเลื่อมใสศรัทธา
เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
ได้รับการขนานนามว่า “เสือแห่งบางปะอิน” วัตรปฏิบัติเคร่งครัดและเปี่ยมด้วยคุณธรรม เป็นที่พึ่งของชาวบ้าน
เป็นหลานแท้ๆ ของหลวงปู่พริ้ง อินทโชติ วัดบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กทม. พระอาจารย์อีกรูปของกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ อยู่ปรนนิบัติรับใช้ใกล้ชิดที่วัดบางปะกอก จนกระทั่งหลวงปู่พริ้งสิ้นบุญ
ปัจจุบัน สิริอายุ 91 ปี พรรษา 55
มีนามเดิม “ประลอง วรรณสว่าง” เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 10 ก.ย. 2474 ปีมะแม ที่บ้านบางปะกอก ต.บางปะกอก อ.ราษฎร์บูรณะ จ.ธนบุรี ครอบครัวประกอบอาชีพทำนา แต่ค่อนข้างมีฐานะดีและมีความผูกพันกับพระพุทธศาสนา เนื่องจากปู่คือหลวงปู่พริ้งเอ็นดูเป็นพิเศษ จึงบวชเณรให้ตั้งแต่วัยเด็ก
ได้รับการปลูกฝังให้อยู่ใกล้ชิดวัด มีโอกาสได้ฟังธรรมและศึกษาเล่าเรียนทั้งภาษาไทย-บาลี ประกอบกับเป็นผู้ที่มีความสนใจทางด้านวิปัสสนากัมมัฏฐาน จึงฝึกฝนทางด้านนี้อย่างจริงจัง รวมทั้งเรียนด้านวิทยาคมเพิ่มเติมจากหลวงปู่พริ้งจนหมดภูมิ
ด้วยความสนใจศึกษาวิปัสสนากัมมัฏฐานและวิทยาคม สำนักใดมีชื่อเสียงในขณะนั้น ก็จะไปศึกษาและออกธุดงค์ไปตามสถานที่ต่างๆ มีโอกาสเข้ากราบพบหลวงพ่อโอภาสี อาศรมบางมด จึงฝากตัวเป็นศิษย์ร่ำเรียนวิชาต่างๆ จนปฏิบัติได้จริง
พ.ศ.2510 เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดบางปะกอก มี พระครูโอภาสศีลคุณ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูวินัยธรทองใบ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์แขม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา “สิริธโร”
ด้วยความมานะพากเพียรและมุ่งมั่น ทำให้มีชื่อเสียงด้านวิทยาคมและวิชาแพทย์แผนโบราณ นำมาสงเคราะห์ชาวบ้านในสมัยนั้น
จากนั้นออกธุดงค์ไปเรื่อยๆ ไม่ได้อยู่ที่ใดที่หนึ่งนานๆ กระทั่งรับนิมนต์มาอยู่จำพรรษาวัดวิเวกวายุพัด โดยพักอาศัยอยู่ข้างเมรุ ซึ่งสภาพวัดสมัยนั้นเงียบสงบ เหมาะต่อการปฏิบัติธรรม
ต่อมาเห็นว่าเสนาสนะภายในวัดวิเวกวายุพัดชำรุดทรุดโทรม ควรได้รับการบูรณะ จึงเริ่มสร้างวัตถุมงคลของขลังให้ญาติโยมร่วมทำบุญ นำปัจจัยก่อสร้างบูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะและถาวรวัตถุต่างๆ กระทั่งวัดเจริญรุ่งเรืองมาโดยตลอด
สำหรับวัตถุมงคลที่ได้รับความนิยม อาทิ นกเรียกเงิน, ลูกเสน่ห์, เหรียญต่อเส้นวาสนา (เหรียญรุ่นแรก), พระปิดตามหากาฬ, พระขุนแผนพรายเนื้อหอม, ลูกอมกสิณ ๙ ไตรมาส, ผ้ายันต์พญาปูหนีบทรัพย์, พระสมเด็จเจ็ดชั้น, พระคง, พระสิบสอง พระสะดุ้งกลับหน้าขุนแผน ฯลฯ
แม้วัตถุมงคลจะได้รับความนิยมเนื่องจากมีประสบการณ์ แต่ก็ไม่เคยโอ้อวด ตรงกันข้ามกลับพร่ำสอนให้ดำรงชีวิตด้วยความไม่ประมาท โดยเน้นย้ำเสมอว่า “สิ่งมงคลย่อมบังเกิดผลดีแก่ผู้ประพฤติดีประพฤติชอบและเชื่อมั่นศรัทธาเป็นที่ตั้ง แม้จะมีของดีมากมาย แต่ทุกคนก็หนีความตายไม่พ้น”
แม้วัยล่วงเข้า 90 กว่าปีแล้ว แต่ท่านยังปฏิบัติกิจสงฆ์อย่างไม่บกพร่อง ตื่นแต่เช้า กวาดลานวัด ทำงาน ฉันมื้อเดียว ยามว่าง นั่งสมาธิภาวนาวิปัสสนากัมมัฏฐานเป็นประจำ
นำวิชาความรู้ด้านวิทยาคม ที่เป็นกุศโลบายสำคัญในการอบรมสั่งสอนศีลธรรมให้ยึดหลักธรรมคำสอนตามแนวทางของพระพุทธเจ้า เป็นวิถีสำคัญในการประพฤติปฏิบัติธรรมและเข้าถึงธรรมะได้อย่างง่าย
มีปฏิปทาที่มั่นคง เคร่งครัดในพระธรรมวินัย มีสัจจะบารมีแน่วแน่มั่นคง ปฏิบัติเกื้อกูลต่อพุทธศาสนิกชนที่มากราบนมัสการอย่างสม่ำเสมอกัน
ทุกวันนี้ ยังคงมุ่งมั่นทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ให้เจริญรุ่งเรืองมั่นคงสืบไป