เวลา 09.26 น. วันนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยัง หอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เขตปทุมวัน ทรงเป็นประธานในพิธีไหว้ครูดนตรีไทย ชมรมดนตรีไทย สโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประจำปีการศึกษา 2565 เพื่อแสดงกตเวทิตาคุณต่อครูดนตรีและบำเพ็ญกุศลอุทิศ แด่ครูดนตรีที่ล่วงลับไปแล้ว นับเป็นการส่งเสริมด้านศิลปวัฒนธรรม อันเป็นประโยชน์แก่ตน และสังคม
ในการนี้ ทรงดนตรี ร่วมกับ วงดนตรีชมรมดนตรีไทยฯ ในเพลงโหมโรงมหาจุฬาลงกรณ์
จากนั้น พระราชทานของที่ระลึก แก่ครูผู้ประกอบพิธีไหว้ครู และครูผู้สอนของชมรมดนตรีไทย ในปีการศึกษา 2565 มีนิสิตเข้าร่วมเป็นสมาชิกของชมรม จำนวน 98 คน ชมรมได้จัดกิจกรรมและเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ โดยปี 2564 ได้ร่วมงานเปิดโลกกิจกรรม เพื่อแนะนํา
ชมรมในรูปแบบออนไลน์, ร่วมแสดงในงานสยามานุสสติ เพื่อเฉลิมพระเกียรติ และน้อมรําลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงสถาปนาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปีการศึกษา 2565 ได้ร่วมกิจกรรมสานสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกเก่า และสมาชิกใหม่ของชมรมฯ และกิจกรรมจิตอาสา ในโครงการจุฬาอารีและไทยอารี โดยจัดทําคลิปเสียง ประกอบเพลงไทย 12 เรื่อง สำหรับเผยแพร่ เสริมสร้างความรู้ และให้ข้อมูลข่าวสาร เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ ในชุมชนทั้งสี่ภาค ผ่านหอกระจายข่าวของชุมชน รวมทั้ง ร่วมกิจกรรมบริการสังคม บรรเลงดนตรีกับพี่เก่าของชมรมในงานต่าง ๆ
เวลา 17.12 น. เสด็จพระราชดำเนินไปยัง เมรุหลวงหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส ในการพระราชทานเพลิงศพ พลโท หม่อมราชวงศ์ มาลานุวัต จักรพันธุ์ ซึ่งถึงแก่อนิจกรรม เนื่องจากโรคมะเร็งปอด เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2565 สิริอายุ 89 ปี
พลโท หม่อมราชวงศ์ มาลานุวัต จักรพันธุ์ เกิดเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2475 เป็นบุตรชายคนโตของ ร้อยเอก หม่อมเจ้า วราทิวัต จักรพันธุ์ และ หม่อมสุมาลา จักรพันธุ์ ณ อยุธยา สืบเชื้อสายมาจาก พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าเสรฐวงศ์วราวัตร กรมหมื่นอนุพงษ์จักรพรรดิ พระโอรสในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้าจาตุรนต์รัศมี กรมพระจักรพรรดิพงษ์ พระราชโอรส ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช และสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชชนนี ทั้งเป็นพระอนุชา ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
หลังสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะกสิกรรมและสัตวบาลศาสตร์ มหาวิทยาเกษตรศาสตร์ เริ่มรับราชการทหารที่กรมพลาธิการทหารบกในปี 2497 ระหว่างนั้น ได้ไปศึกษาอบรมหลักสูตร ทางการทหารที่สหรัฐอเมริกา ในปี 2501 ได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยให้ถวายงานในกรมราชองครักษ์ เป็นราชองครักษ์ในพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ต่อมาในปี 2515 ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เป็นราชองครักษ์ประจำพระองค์ของ สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 จวบจนกระทั่งเสด็จสวรรคตในปี 2527 จากนั้น ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้ากองนโยบายและแผน กรมราชองครักษ์ และเกษียณอายุราชการในปี 2536 ตลอดระยะเวลาการรับราชการ ได้ปฎิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต และเทิดทูนไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นผู้บังคับบัญชาที่ดี มีความเสียสละ และเป็นแบบอย่างแก่ผู้ใต้บังคับบัญชา ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ มหาวชิรมงกุฎ, ประถมาภรณ์ช้างเผือก และเหรียญรัตนาภรณ์รัชกาลที่ 9 ชั้นที่ 3
ด้านชีวิตครอบครัว สมรสกับ นางหรรษา จักรพันธุ์ ณ อยุธยา (สกุลเดิม วีระไวทยะ) มีบุตรธิดา 3 คน