หนุ่มตกงาน ไหว้พระขอพร เสี่ยงเซียมซี ก่อนงัดตู้บริจาควัดพนัญเชิงวรวิหาร แต่กรรมตามทันถูกตำรวจตามรวบตัว ทั้งที่เพิ่งได้งานทำ
พุธที่ 31 มีนาคม 2564 เวลา 12.32 น.
จากกรณีคนร้ายเป็นชายแต่งกายดี ผิวขาว สูงประมาณ 170 ซม. อายุ 30-35 ปี สวมหน้ากากอนามัย ทำทีเข้ามาไหว้พระ เสี่ยงเซียมซี ในวิหารวัดพนัญเชิงวรวิหาร จ.พระนครศรีอยุธยา พอสบโอกาสใช้ไขควงที่เตรียมมางัดตู้บริจาค ตู้ทำบุญเซียมซี แล้วหยิบธนบัตรที่อยู่ในตู้ไปเกือบหมดใส่ในกระเป๋าเป้ที่สะพายมาและเดินออกไปอย่างใจเย็น เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมานั้น
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 31 มี.ค. พ.ต.อ.ประเวศ ศรีนาค ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.ท.ณัฏฐ์เดชา ฐานิสภัทราพงศ์ รอง ผกก.สส. นำกำลังฝ่ายสืบสวนเข้าจับกุมตัว นายกรณ์ธาวิน งามวิไล อายุ 33 ปี ชาว จ.อำนาจเจริญ พร้อมของกลางเสื้อผ้าที่สวมใส่ ไขขวง และเงินสดอีกจำนวหนึ่งที่ได้จากการงัดตู้บริจาค มาสอบปากคำ ก่อนคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่วิหารวัดพนัญเชิงวรวิหาร โดยนายกรณ์ธาวิน ได้เข้าไปกราบขอโทษ พระเมธีวราภรณ์ รองเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และรองเจ้าอาวาสวัดวัดพนัญเชิงวรวิหาร ยอมรับผิดและรับกรรมที่ตนเองได้กระทำไป
จากากรสอบสวน นายกรณ์ธาวิน ให้การว่า ตนตกงานอยู่ระหว่างหางานทำ เคยมาท่องเที่ยวไหว้พระขอพรที่วัดพนัญเชิงวรวิหารและวัดต่างๆ ใน จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นประจำ วันเกิดเหตุไม่ได้ตั้งใจะมางัดตู้บริจาค แต่เข้ามาเที่ยวที่วัด มากราบไหว้พระพุทธรูปหลวงพ่อโตจำลองภายในวิหาร และได้เสี่ยงเซียมซี่ พอสบโอกาส ปลอดคน ไม่มีใครอยู่ภายในวิหาร ก็ตัดสินใจใช้ไขควงงัดตู้บริจาค และเอาเงินสดที่อยู่ในตู้หลบหนี โดยว่าจ้างรถจักรยานยนต์ ไปส่งที่วัดเกาะแก้วที่อยู่ใกล้ เข้าไปไหว้พระและให้อาหารปลา ก่อนที่จะเดินทางกลับไปห้องเช่า ใน ต.สามเรือน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา จนกระทั่งถูกตำรวจตามมาจับกุมตัว ทั้งที่ได้งานทำแล้วด้วย
เบื้องต้นตำรวจ ไม่ปักใจเชื่อในคำให้การ เชื่อว่าผู้ต้องหามีการเตรียมการที่จะมาก่อเหตุ ตรวจสอบกล้องวงจรปิดแล้วพบว่า คนร้ายได้ขึ้นรถ จยย.ไปยังสถานีรถไฟอยุธยา จากนั้นก็ไปลงที่สถานีรถไฟภาชี แล้วได้นั่งรถตู้โดยสารย้อนกลับมาลงยังหน้าหมู่บ้านสินทิวา ต.สามเรือน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณหมู่บ้านสินทิวา เป็นจังหวะเดียวกันที่นายกรณ์กาวินคนร้ายที่ก่อเหตุเดินผ่านมาพอดี เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการจับกุมตัวไว้ได้.
คุณเห็นด้วยกับข่าวนี้หรือไม่
-
เห็นด้วย
0%
-
ไม่เห็นด้วย
0%