อยุธยาไม่ได้มีความเป็นสำคัญเพียงจังหวัดหนึ่งของประเทศไทย แต่เมืองริมแม่น้ำเจ้าพระยานี้เคยเป็นราชธานีที่รุ่งเรืองอย่างยาวนานที่สุดของประเทศ ทุกซอกมุมจึงเต็มไปด้วยเรื่องราวแต่หนหลัง ร่องรอยอารยธรรม ปูชียสถานและโบราณวัตถุอันประเมินค่ามิได้ จึงได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้อยุธยาเป็นเมืองมรดกโลก เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2534 มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นสถานศึกษาประจำจังหวัดเล็งเห็นความสำคัญของภูมิปัญญาโบราณในด้านต่าง ๆ ของกรุงเก่าแห่งนี้เช่นกัน จึงจัดตั้งสถาบันอยุธยาศึกษา ณ เรือนไทยสถาบันอยุธยาศึกษา ภายในรั้วมหาวิทยาลัยขึ้นเพื่อเป็นแหล่งรวบรวมและศึกษามรดกทางวัฒนธรรมอันทรงค่าในท้องถิ่น เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2549 เป็นต้นมา ภายในสถาบันฯ จัดให้มีนิทรรศการบนเรือนไทย 5 หลัง ได้แก่ ห้องอยุธยาศึกษา ห้องภูมิปัญญาท้องถิ่น ห้องมรดกด้านศิลปกรรม ห้องนิทรรศการหมุนเวียน และห้องพิธีการ เจาะลึกความเป็นมาของอยุธยาในทุกด้านในบรรยากาศเก่าแก่เหมือนเมื่อหลายร้อยปีก่อน พร้อมจัดกิจกรรมพิเศษให้ผู้มาเยือนได้มีส่วนร่วมสนุกและได้ความรู้ไปในตัว เช่น อยุธยายามค่ำ บอกเล่าเรื่องราวในราชสำนักอยุธยา คติความเชื่อ ขนบธรรมเนียมต่าง ๆ คลอไปกับการแสดงดนตรีและนาฏศิลป์ไทยอันอ่อนช้อยงดงาม ส่วนในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์มีกิจกรรมนั่งรถรางชมโบราณสถานยามค่ำคืน ให้ได้อรรถรสความงามของกรุงเก่าในมุมต่าง พร้อมจำลองประเพณีท้องถิ่นต่าง ๆ เช่น พิธีแต่งงาน โกนจุกและทำขวัญนาค รับฟังเรื่องราวของเมืองอยุธยาจากกูรูท้องถิ่นที่รับหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์พานักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศทัวร์สถานที่จริง พร้อมช็อปชิมโอท็อปของดีเมืองอยุธยาที่คัดสรรมาแล้ว เปิดทุกวัน เวลา 08.30-16.30 น. ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 3524 1407, 0 9115 5181 หรือศูนย์ท่องเที่ยวอยุธยา (ศาลากลางหลังเก่า) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคกลางเขต6 โทร. 0 3532 2730-1 (ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ) ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://asi.aru.ac.th