‘กรุงเทพฯ’ คว้าที่ 6 เมืองจุดหมายประชุมนานาชาติโลกในปี 64 จาก101 เมืองทั่วโลก
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เปิดเผยว่า กรุงเทพฯ ได้ถูกจัดอันดับขึ้นมาอยู่ในอันดับ 6 เมืองจุดหมายการประชุมนานาชาติของโลกในปี 2564 จากเดิมอันดับ 8 ในปี 2563 โดยผลสำรวจจัดอันดับ 101 เมืองทั่วโลกของ GainingEdge บริษัทที่ปรึกษาชั้นนำของโลกด้านอุตสาหกรรมไมซ์
ทั้งนี้ 101 เมืองที่ได้รับการสำรวจคัดเลือกมาจากรายชื่อเมืองที่มีการจัดประชุมนานาชาติจำนวนมากในรอบปี 2560-2562 ของ International Congress and Convention Association (ICCA) โดยพิจารณาจากดัชนีชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของการเป็นจุดหมายจัดการประชุมนานาชาติหรือ International Convention Destination Competitive Index ประกอบด้วยโครงสร้างพื้นฐาน ความสะดวกในการเดินทางเข้าถึงเมือง ระบบโลจิสติกส์ สมาคมหรือประชาคมวิชาชีพสาขาต่าง ๆ ความน่าสนใจในฐานะจุดหมายของการเดินทาง และต้นทุนการดำเนินงานของผู้วางแผนและผู้จัดงาน
ผลสำรวจได้จัดอันดับเมืองจุดหมายการประชุมนานาชาติ 10 อันดับแรกของโลกประจำปี 2564 เรียงตามลำดับดังนี้ ปารีส นิวยอร์ก สิงคโปร์ ปักกิ่ง โตเกียว กรุงเทพฯ ลอนดอน บาร์เซโลนา อิสตันบูลและวอชิงตัน สำหรับกรุงเทพฯ เป็นการขยับจากอันดับ 8 ในปี 2563 เมื่อเปรียบเทียบเมืองเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก 10 ลำดับแรก กรุงเทพ ฯ อยู่ลำดับที่ 4 ประกอบด้วยสิงคโปร์ ปักกิ่ง โตเกียว กรุงเทพฯ ฮ่องกง เซี่ยงไฮ้ กัวลาลัมเปอร์ โซล มาเก๊าและบาหลี
รายงานดัชนีชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของเมืองในการเป็นจุดหมายจัดการประชุมนานาชาติประจำปี พ.ศ. 2564 เป็นการประเมินคุณภาพของปัจจัยหลักในแต่ละเมือง โดยพิจารณาจาก 3 ปัจจัยหลัก คือ 1. ด้านสุขอนามัยหรือ Hygiene Factors 2. ด้านความได้เปรียบในการแข่งขันหรือ Competitive Advantages 3. ด้านการสร้างความแตกต่างหรือ Key Differentiators ซึ่งดัชนีบ่งชี้เหล่านี้มาจากการวิจัยเบื้องต้นและข้อมูลจากองค์กรที่เกี่ยวข้อง อาทิ International Congress and Convention Association (ICCA) ธนาคารโลก World Economic Forum และสหประชาชาติ ซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยให้เมืองมีแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการเร่งฟื้นฟูอุตสาหกรรมไมซ์ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด 19
การขยับอันดับของกรุงเทพฯ มีขึ้นในช่วงที่งานไมซ์ต่าง ๆ เริ่มกลับมาดำเนินงานอีกครั้ง โดยในวันที่ 23-25 มิถุนายนปีนี้ กรุงเทพฯ จะเป็นเจ้าภาพจัดงาน Global Summit of Women ในขณะที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิต์ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่จะเปิดใช้งานเต็มรูปแบบในเดือนกันยายน และยังได้รับเลือกเป็นสถานที่จัดประชุม APEC 2022 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในเดือนพฤศจิกายนนี้ด้วย
นายจิรุตถ์ กล่าวว่า การขยับอันดับของกรุงเทพฯ สู่อันดับ 6 ของโลกเป็นนิมิตหมายที่ดี ในช่วงที่ทีเส็บกำลังมุ่งพัฒนาปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ เพื่อดึงดูดนักวางแผนการจัดประชุมนานาชาติและผู้ร่วมงานจากต่างประเทศ โดยทีเส็บดำเนินงานแบบพุ่งเป้าชัดเจนในการดึงงานใหญ่ ๆ จากทั่วโลกให้เข้ามาจัดในไทย เพื่อยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ ทีเส็บได้ขยายบริการ MICE Lane ไปยังสนามบินดอนเมือง เปิดศูนย์ประสานงานเพื่ออำนวยความสะดวกอุตสาหกรรมไมซ์ (Thailand MICE One Stop Service) ในรูปแบบออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.thaimiceoss.com เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้จัดงานในการติดต่อประสานงานกับหน่วยราชการเมื่อต้องจัดงานกับต่างประเทศ และขยายเครือข่ายกับภาคธุรกิจหลัก เพื่อช่วยผลักดันให้กลุ่มวิชาชีพของภาคธุรกิจยื่นประมูลสิทธิ์ดึงงานประชุมนานาชาติมาจัดในประเทศไทยได้สะดวกยิ่งขึ้น และช่วยสร้างจุดขายที่แตกต่างให้กับกรุงเทพฯ
นอกจากนั้นทีเส็บยังได้ร่วมกับโรงแรมต่างๆ จัดทำแพ็กเกจสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้า ตลอดจนการจับคู่ธุรกิจผู้ประกอบการไมซ์กับผู้ประกอบการสายเทคโนโลยีภายใต้โครงการ MICE Winnovation เพื่อส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีในการจัดงาน และยังมีแคมเปญสนับสนุนงานประชุมนานาชาติในชื่อ Convene Plus ที่ให้งบประมาณสนับสนุนการจัดงานทั้งในรูปแบบ Hybrid และ Virtual รวมถึงสนับสนุนการจัดงานที่สร้างผลกระทบเชิงบวกทางเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม เรายังคงเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์หลากหลายรูปแบบเพื่อสร้างมูลค่าให้กับงานของลูกค้า และดึงดูดนักเดินทางไมซ์นานาชาติให้มาจัดงานในประเทศไทย
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่