เผยแพร่: ปรับปรุง: โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม
MGR Online – ตำรวจกองสืบนครบาล แกะรอยแก๊งยาเสพติด ใช้รถกระบะกรุยทางรถ 6 ล้อ ขนยาบ้า 1 ล้านเม็ด มูลค่า 30 ล้านบาท จาก จ.เชียงราย เข้าสู่กรุงเทพฯ สกัดจับได้ที่ปั๊มน้ำมัน จ.นครสวรรค์ ดัดแปลงจากรถขนข้าวโพดใช้ขนยา พบสัญลักษณ์ “22” เป็นของกลุ่มใหม่ คาดข้ามชายแดนทางภาคเหนือมา โดยกองกำลังคาราวาน
วันนี้ (24 ม.ค.) เวลา 18.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.บช.น.แถลงข่าว พ.ต.อ.กฤศณัฏฐ์ ธนศุภณัฏฐ์ ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.และตำรวจ กก.สส.2 บก.สส.บช.น.จับกุม นายวิเศษ (สงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี นายสุพล (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี และนายอดุลย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี พร้อมของกลาง ยาบ้า 1,000,000 เม็ด มูลค่า 30 ล้านบาท รถบรรทุก 6 ล้อ 1 คัน และกระบะ 1 คัน ได้ภายในปั๊มน้ำมัน พีที ต.โคกเดื่อ อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์
สืบเนื่องจากจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่หลายคดีในกรุงเทพฯ ได้สืบสวนขยายผลจนทราบว่ามีกลุ่มลักลอบใช้รถบรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นเอฟอาร์อาร์ สีขาวคาดน้ำเงิน ทะเบียน 71-0015 เชียงราย และรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็คซ์ สีดำ ทะเบียน ขข-7610 เชียงราย ลำเลียงยาเสพติดจากชายแดน จ.เชียงราย นำส่งให้กับลูกค้าในกรุงเทพฯและ จ.อยุธยา ตำรวจติดตามดูพฤติการณ์เรื่อยมา จนกระทั่งเมื่อวันที่ 22 ม.ค. เวลา 15.00 น. พบรถทั้ง 2 คัน ก่อนถึงบริเวณแยก อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ ประมาณ 20 กม. จึงสะกดรอยติดตามจากนั้นรถทั้ง 2 คัน เลี้ยวเข้าปั๊มน้ำมัน พีที แยก อ.ไพศาลี ก่อนแสดงตัวเข้าตรวจค้นรถพบ ยาบ้า 1,000,000 เม็ด
พล.ต.ต.นิธิธร กล่าวว่า เป็นการขยายผลจับกุมของตำรวจสืบสวน 2 และสายตรวจ 191 จับกุม ยาบ้า 2,000,000 เม็ด พื้นที่ จ.นนทบุรี กลุ่มดังกล่าว นายวิเศษ คนขับและเจ้าของรถบรรทุก 6 ล้อ ว่าจ้าง นายสุพล และนายอดุลย์ ทำหน้าที่ขับรถกระบะของตนเองอีกคันนำทาง โดยรถบรรทุก 6 ล้อ จากเดิม นายวิเศษ ใช้บรรทุกข้าวโพดข้ามชายแดน ต่อมาเปลี่ยนอาชีพมาขนยา ก็ได้ดัดแปลงด้านข้างใต้กระบะใช้ซุกซ่อน ยาบ้า 5 กระสอบ รวมทั้งหมด 1,000,000 เม็ด ถ้าไม่ถูกจับที่ จ.นครสวรรค์ จะลำเลียงมาสู่ อ.บางปะหัน จ.อยุธยา เพื่อพักยาก่อนเข้ากรุงเทพฯ
สำหรับยาบ้าลอตดังกล่าวนำเข้ามาโดยกองกำลังคาราวานขนยาเสพติดข้ามชายแดน เมื่อเปิดดูหีบห่อไม่ใช่เครื่องหมาย 999 อย่างที่เคยเห็นแต่เป็น 22 จึงประสาน บช.ปส.เพื่อตรวจสอบว่าเป็นของกลุ่มใด คาดว่ามาจากชายแดนภาคเหนือไม่ใช่ลาว นายวิเศษ ทำมาแล้ว 2 ปี ทั้งหมด 6 ครั้ง ได้เงินครั้งละประมาณ 300,000-450,000 บาท ส่วน นายสุพล และนายอดุลย์ ลูกน้อง ได้ค่าจ้างครั้งละ 30,000 บาท จากการตรวจสอบประวัติ นายวิเศษ เคยถูกดำเนินคดี “ครอบครองยาเสพติดเพื่อเสพ” ศาลลงโทษปรับ เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย” ก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.